การใส่ Meta Descriptionจะเป็นการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของเว็บเราและยังสามารถช่วยอธิบายภาพรวมของเว็บไซต์ ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์เองก็ต้องคำนึงถึงข้อความให้เกี่ยวข้องกับ Title Tag หรือหัวข้อมากที่สุด เพื่อให้ผู้ค้นหาเกิดความน่าสนใจในตัวบทความ โดยควรเขียน Meta Description ให้อ่านดูเป็นธรรมชาติ น่าดึงดูด ไม่บิดเบือนความจริง ซึ่งก็จะช่วยให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องตามกลุ่มของ Keyword จาก Meta Description ที่เขียนสอดคล้องกับ Title Tag นั่นเอง
Meta Description คืออะไร?
Meta Description เป็น Meta Tag ที่มีไว้สำหรับอธิบายรายละเอียดเนื้อหาของหน้านั้นๆ เพื่อให้ผู้ค้นหา ทราบว่าเว็บไซต์ของเรานี้เกี่ยวข้องกับอะไร โดยข้อความที่อยู่ใน Meta Description จะไม่ได้แสดงในเว็บไซต์ แต่จะแสดงที่หน้าของ Google เท่านั้น ซึ่งจะเป็นคำอธิบายที่มีอยู่ 2 บรรทัด ถัดจาก Title Tag(หัวข้อ) แต่สามารถตรวจสอบข้อความเหล่านี้ได้ใน Code ของ Meta Description ทางเว็บ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีเขียนและข้อควรระวังในการใช้ Meta Description
การเขียน Meta Description ให้ดีและถูกหลักนั้นต้องมีหลักการเขียนที่ดีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดโดยเราก็ได้รวบรวมเอาหลักสำคัญในการเขียน Meta Descriptionไว้เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
1.เลือก Keyword ในการทำ SEO เป็นอันดับแรก
อันดับแรกในการทำ Meta Description นั้นจะต้องเลือก Keyword เสียก่อน โดยให้เลือกคีย์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาและมีคู่แข่งที่ไม่มากหรือสามารถหาคีย์หลายๆ ตัวมาเปรียบเทียบกันทำให้เพื่อตัดสินใจก่อนก็ได้
2.ควรเลือกใส่จำนวน Keyword ให้พอดี
การใส่คีย์เวิร์ดมากไปจะทำให้เนื้อหาหรือเรื่องราวที่เราอยากจะกล่าวถึงดูไม่สอดคล้องกัน โดย Meta Description ที่ดีควรใส่คีย์เวิร์ดให้มีจำนวนที่เหมาะสมเพื่อให้เป็นผลดีต่ออันดับของเว็บเราด้วย
3.เลือกตำแหน่งในการใส่ Keyword
การใส่คีย์เวิร์ดใน Meta Description ไม่เพียงแค่จำนวนในการใส่เท่านั้นแต่จะต้องเลือกใส่คีย์เวิร์ดให้ถูกตำแหน่งด้วย ซึ่งควรใส่ในช่วงต้นของคำอธิบายเพราะทาง google จะให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดในช่วงต้นข้อความอย่างมาก
การใส่ Meta Description นอกจากจะเป็นการอธิบายรายละเอียดของหัวข้อ Title Tag แล้วยังเป็นการอธิบายภาพรวมของเว็บไซต์ต่อผู้ค้นหาอีกด้วย โดยเราควรเขียน Meta Description ให้คำออกมาเป็นธรรมชาติ น่าดึงดูด ไม่พิมพ์เกินจริง จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานและช่วยให้ Robot ของ Search Engine เก็บข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการประมวลผล ทำให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องตามกลุ่มของ Keyword จาก Meta Description ที่คุณเขียนไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง